สาระการเรียนรู ผูเรียนมีทักษะการสนทนาเกี่ยวกับการไปตัดเสื้อ มีความรูและสามารถอานออก เสียงคําศัพท วลี สํานวนที่เกี่ยวของกับการไปตัดเสื้อ เชน measure, sleeves, seam, shorten และ มีความความเขาใจในโครงสราง have something done, Reported Speech รวมทั้งสามารถเลาเรื่อง ในสถานการณที่กําหนดใหได
ผลการเรียนรูที่คาดหวัง
1. ผูเรียนมีความรูและมีความสามารถในการศึกษาคนควาหาความรู และขอมูลจากสื่อตาง ๆ
2. ผูเรียนสามารถอานออกเสียงคําศัพท วลี สํานวน ไดอยางถูกตอง
3. ผูเรียนมีความรูและเขาใจสามารถใชประโยคซับซอนในสถานการณตาง ๆ ไดอยางถูกตอง
4. ผูเรียนมีความรูและสามารถใช Tense ที่ยุงยากและซับซอนได
5. ผูเรียนมีความรูและสามารถแลกเปลี่ยนขอมูลขาวสารความรูไดอยาง มีประสิทธิภาพ
ขอบขายเนื้อหา
เรื่องที่ 1 บทสนทนาเกี่ยวกับการไปตัดเสื้อ
เรื่องที่ 2 การอานออกเสียง คําศัพท วลี สํานวน ที่เกี่ยวของกับการไปตัดเสื้อ เชน measure, sleeves, seam, shorten
เรื่องที่ 3 โครงสร้าง have something done
เรื่องที่ 4 โครงสร้าง Reported Speech
เรื่องที่ 5 การเล่าเรื่อง(สถานการณ)
เรื่องที่ 1 บทสนทนาเกี่ยวกับการไปตัดเสื้อ ที่รานตัดเสื้อผา (At the Tailor's)
Dressmaker : Hello. May I help you ?
Client : Yes, I would like to have a dress made.
Dressmaker : Of course, Madame. Have you got any design in your mind?
Client : Yes, a dark green dress with a white lace around the collar and at the hem of skirt. Dressmaker : Now, let's take a measurement, please.
Client : O.K.
Dressmaker : How long of dress would you like?
Client : I like it in shorten above my knees.
Dressmaker : And how would you like your sleeves?
Client : I like them long and seam at the edge.
Dressmaker : I will make it as you like. When will you like to get this dress?
Client : Next Sunday, please.
Dressmaker : Yes, I will try. It will be ready at that day.
Client : Thank you.
กิจกรรมที่ 1 ใหผูเรียนจับคูกับเพื่อนฝกพูดบทสนทนา ที่รานตัดเสื้อผา ( At the Tailor's )
กิจกรรมที่ 2 เติมบทสนทนาใหสมบูรณ โดยใชคําศัพทที่ให
above get in long like make please seam When would
Dressmaker : How………….. of dress would you…………….?
Client : I like it……. shorten……………. my knees.
Dressmaker : And how…………… you like your sleeves?
Client : I like them long and………….. at the edge.
Dressmaker : I will………… it as you like. ……..will you like to…….. this dress?
Client : Next Sunday,……………..
กิจกรรมที่ 3 จงเรียงลําดับบทสนทนาโดยใสตัวเลขหนาประโยคใหถูกตอง
คําตอบ บทสนทนา
คําตอบ
|
บทสนทนา
|
Yes,
I would like to have a dress made.
|
|
Of
course, Madame. Have you got any design in your mind?
|
|
O.K.
|
|
Hello. May I help you ?
|
|
Yes,
a dark green dress with a white lace around the collar and at the hem of
skirt.
|
|
Let's
take a measurement, please.
|
กิจกรรมที่ 4 จงจับคู่บทสนทนาให้ตรงกับความหมายโดยนําตัวเลขมาใส่หน้าข้อความให้ถูกต้อง
คําตอบ
|
ประโยค
|
ความหมาย
|
Yes,
I would like to have a dress made.
|
1.ขอเชิญวัดตัวไดเลยคะ
|
|
Have
you got any design in your mind?
|
2.คุณตองการแขนเสื้ออยางไร
|
|
Now,
let's take a measurement, please.
|
3.คะ ฉันตองการจะตัดชุดคะ
|
|
And
how would you like your sleeves?
|
4.ชุดจะเสร็จในวันที่กําหนดคะ
|
|
It
will be ready at that day.
|
5.คุณมีแบบหรือยังคะ
|
กิจกรรมที่ 5 ให้ผู้เรียนเขียนประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษ
1. คุณมีแบบเสื้อหรือยังคะ ………………………………………………………………………………………………
2. คุณชอบกระโปรงยาวแค่ไหนคะ
………………………………………………………………………………………………
3. ฉันชอบกระโปรงยาวคลุมเข่า
………………………………………………………………………………………………
4. ฉันชอบแขนเสื้อสั้น ………………………………………………………………………………………………
5. เสื้อมีลูกไม่ที่ปกด้วย ………………………………………………………………………………………………
เรื่องที่
2
การอ่านออกเสียง คําศัพท์ วลี สํานวน ที่เกี่ยวข้องกับการไปตัดเสื้อ
คําศัพท์ (Vocabulary )
|
คําแปล
collar
ปก
|
design
|
ออกแบบ
|
dressmaker
/ tailor
|
ช่างตัดเสื้อ
|
dressmaking's
shop /tailor's shop
|
ร้านตัดเสื้อ
|
lace
|
ผ้าลูกไม้
|
long
|
ยาว
|
measurement
|
การวัดตัว
|
Peterpan's
collar
|
ปกคอบัว
|
Sleeves
|
แขนเสื้อ
|
Seam
|
ตะเข็บ
|
Shorten
|
สั้น
|
Sew
|
เย็บ
|
สำนวนที่ควรทราบ (Word
Studies)
สํานวน
|
ความหมาย
|
I
would like to have a dress made.
|
ฉันต้องการจะตัดชุดค่ะ
|
I
would like to have a blouse made.
|
ฉันตองการจะตัดเสื้อคะ
|
I
would like to have a skirt made.
|
ฉันต้องการจะตัดกระโปรงค่ะ
|
How
long of skirt would you like?
|
คุณต้องการกระโปรงยาวแค่ไหนคะ
|
How
would you like it?
|
คุณชอบแบบไหนคะ
|
take
a measurement
|
ขอเชิญวัดตัวคะ
|
Thai
style, please.
|
แบบไทยๆคะ
|
cover
my knees.
|
ยาวคลุมเข่า
|
short-
sleeved shirt
|
เสื้อแขนสั้น
|
clothing
for women
|
เสื้อผาสําหรับผูหญิง
|
เรื่องที่ 3 โครงสราง have
something done
ประโยค Present perfect tense ประธาน + (have, has) + past participle (กิริยาช่องที่3) เชิงบอกเล่า โครงสร้าง :
ประธาน + have , has + กริยาช่อง 3
ตัวอย่าง : 1. I have studied English for 2 years.
ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา
2
ปแลว
2.
She has seen that movie many times.
เธอดูหนังเรื่องนั้นมาหลายครั้งแลว
3.
They have been abroad two times.
พวกเขาไปต่างประเทศมาสองครั้งแล้ว
4.
You have done a lot of work this morning.
คุณทํางานเยอะมากเชานี้
5.
I have lost my keys.
ฉันทํากุญแจหาย
เชิงปฏิเสธ โครงสราง : ประธาน + have , has +
not + กริยาช่อง 3
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect
Tense ใหมีความหมายเชิงปฏิเสธ
ใหเติม not หลัง Verb to have
ตัวอยาง :
1. I have not
studied English for 2 years.
ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไมถึง 2 ป
2. She has not seen that movie many
times.
เธอไมไดดูหนังเรื่องนั้นหลายครั้ง
3. They have not been abroad two
times.
พวกเขาไปต่างประเทศไมถึงสองครั้ง
4. You have not done a lot of work this
morning.
คุณไมไดทํางานเยอะมากเชานี้
5. I have not lost my keys.
ฉันไมไดทํากุญแจหาย
เชิงคําถามและการตอบ โครงสราง : Have, Has + ประธาน +
กรยิาชอง 3 เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมาย
เชิงคําถาม ใหนํา Verb to
have มาวางไวหนาประโยค
และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสราง
ดังนี้ ตัวอยาง :
1.
คําถาม Have you
studied English for 2 years ?
คุณเรียนภาษาอังกฤษมา 2 ปแลวใชหรือไม
คำตอบ 1.
Yes,
I have. ใช
ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 2 ปแลว
2. No, I haven’t. ไม ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไมถึง
2 ปี
2. คําถาม
Has
she seen that movie many times?
เธอดูหนังเรื่องนั้นมาหลายครั้งแลวใชหรือไม คำตอบ 1.
Yes, she has.
ใช เธอดูหนังเรื่องนั้นมาหลายครั้งแลว
2. No, she hasn’t. ไม เธอไมได้ดูหนังเรื่องนั้นหลายครั้ง
3.
คําถาม Have they
been abroad two times? พวกเขาไปต่างประเทศมาสองครั้งแลวใชหรือไม คำตอบ 1.
Yes, they have. ใช พวกเขาไปตางประเทศมาสองครั้งแลว 2. No, they haven’t. ไม พวกเขาไมไดไปต่างประเทศมาสองครั้ง
เรื่องที่
4 โครงสราง Reported Speech Reported speech หรอื Indirect Speech คือคําพูดที่นำเอาไปพูดต่อ ซึ่งอาจมีวิธีการพูด ได 2 วิธี คือ
1. การพดูโดยยกเอาคําพูดจริง ๆ
ของผูพูดไปเลาใหฟงทั้งหมดโดยไมเปลี่ยนแปลง เรียกวา Direct Speech เช่น Tomas said, "I like
English." ขอความวา
"I like English. " เป็น Direct
Speech
2. การพดูโดยนําคําพูดของผูอื่นมาดัดแปลงเปนคําพูดของผู้เลาเอง
เรียกว่า Reported Speech หรือ Indirect Speech เชน Tomas said (that) he liked English. Reported Speech มี 3
แบบใหญ่ๆ คือ
1. Indirect Speech หรือ Reported
Statement (บอกเลาและปฏิเสธ)
2. Indirect Speech หรือ Reported
Request and Command (ขอรองและคําสั่ง)
3. Indirect Speech หรือ Reported
Questions (คําถาม)
1. Indirect Speech หรอื Reported
Statement (บอกเล่า และปฏิเสธ)
1. ถากริยานําเปนปจจุบัน (Present)
ไมตองเปลี่ยนแปลง Tense ใน Indirect
Speech เช่น
Direct Speech
: Tomas says, "I like English."
Indirect Speech
: Tomas says (that) he likes English .
(like
และ likes เปนคํากริยาชองที่ 1 Present Simple Tense ทั้งคู) * * * ขอสังเกต เมื่อเปลี่ยนเปน Indirect
แลว สรรพนามตองเปลี่ยนไปตามประธาน
2. ถากริยานําเปนอดีต (Past)
ตองเปล่ียนแปลง Tense ใน Indirect
Speech ดังนี้
1) Present Simple Tense เปลี่ยนเปน
Past Simple Tense
Direct
Speech : He said, "I want to eat."
Indirect
Speech: He said that he wanted to eat.
2) Present Continuous Tense เปลี่ยนเปน
Past Continuous Tense เช่น
Direct
Speech : Laura said, "I am not going to Chieng Mai."
Indirect
Speech : Laura said (that) she was not going to Chieng Mai .
3) Present Perfect Tense เปลี่ยนเปน
Past Perfect Tense เช่น
Direct
Speech : John said, "I have finished my work."
Indirect
Speech : John said (that) he had finished his work.
4) Past Simple Tense เปลี่ยนเปน Past
Perfect Tense เช่น
Direct Speech : Aliz said, "I
went to Bangkok."
Indirect
Speech : Aliz said (that) she had gone to Bangkok.
5) will เปลี่ยนเปน would เช่น
Direct
Speech : Pit and Sue said, "We will go to Bangkok."
Indirect
Speech : Pit and Sue said (that) they
would go to Bangkok.
6) shall เปลี่ยนเปน should
เช่น
Direct
Speech : They said, "We shall go to Bangkok."
Indirect
Speech : They said (that) they should go to Bangkok.
7) can เปลี่ยนเปน could เช่น
Direct
Speech : Mark said, "I can't speak Thai."
Indirect
Speech : Mark said (that) he couldn't speak Thai.
8) may เปลี่ยนเปน might เช่น
Direct
Speech : Anny said, "I may not go to Rayong."
Indirect
Speech : Anny said (that) she might not go to Rayong.
เรื่องที่ 5 การเลาเรื่อง (สถานการณ)
Music in my
life. I like classical music although I
don’t know much about it. I often buy music
recordings about twice a year.
Half of my music collections are from buying CD’s and the other half are from downloading and from
my friends. I always listen to my love
songs on the way to work and back
home. However, I like to go to the
concert too. I went to quite a lot of concerts, maybe five a year, Last
year I went to the concert of Am and Wan.
I love their songs too.
กิจกรรม ใหผูเรียนเขียนเลาเรื่องเกี่ยวกับ Music
in my life. ของผูเรียนโดยใชคําถามที่ให้เป็นแนวในการเขียน
หรืออาจเขียนเรื่องอื่น ๆ ที่ผูเรียนมีประสบการณก็ได
1. What kind of music do you like?
2. How often do you buy music?
3. Do you buy music on CD or download
from internet or get it other way?
4. Do you listen to music on the
radio?
5. Do you like to go to the
concert?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น